latest

5 ปี ต่อจากนี้ คือช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อก้าวเข้าสู่ “ยานยนต์ไฟฟ้า”

ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย
(Electric Vehicle Association of Thailand) หรือ EVAT

“อนาคตอันใกล้ไม่เกิน 5 ปี จากนี้ไปคนไทยจะใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่ช่วยกระตุ้นให้ตัดสินใจเป็นเจ้าของ” ดร.ยศพงษ์ ลออนวล เผยถึงเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างน่าสนใจท่ามกลางความต้องการของพลังงานที่เพิ่มขึ้นในทุกวัน ทำให้อัตราการผลิตไม่ว่าจะเป็น แหล่งน้ำมันดิบดูไบโรงไฟฟ้าและโรงผลิตน้ำมันทั่วโลกได้เพิ่มกำลังผลิตเพื่อ รองรับความต้องการของทุกภาคส่วน อาทิ การคมนาคม ขนส่ง จึงทำให้หลากหลายองค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะผู้พัฒนาใน อุตสาหกรรมยานยนต์หันมายกระดับเครื่องยนต์ให้สามารถ ใช้พลังงานทางเลือกและทดแทนได้อย่างเต็มรูปแบบใน การขับเคลื่อน อาทิ พลังงานไฟฟ้า เพราะพลังงานดังกล่าว นอกจากราคาไม่สูงแล้วยังเป็นมิตรต่อสภาวะอากาศยิ่งเมื่อเทียบกับน้ำมันสามารถลดต้นทุนการใช้ชีวิตประจำวัน ได้อย่างมาก

โดยยานยนต์ไฟฟ้าหรือ Electric Vehicle หมายถึง ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว หรือยานยนต์ที่อาศัยเครื่องยนต์มาใช้ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งในส่วนของการขับเคลื่อนและผลิตพลังงานไฟฟ้าเก็บ สะสมในแบตเตอรี่ รวมทั้งการอัดประจุไฟฟ้าจากภายนอกหรือการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์เชื้อเพลิงและเมื่อนึกถึง EV ในขณะนี้ผู้ที่สามารถตอบถึงเทรนด์ดังกล่าวได้อย่างครอบคลุม คือ ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (Electric Vehicle Association of Thailand) หรือ EVAT โดยได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับยานยนต์พลังงานสะอาดดังกล่าวไว้ว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นหรือเปลี่ยนผ่านสำหรับประเทศไทยเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า ในระยะแรกราคาของรถอาจจะสูงแต่เมื่อผ่านไปสักระยะคาดว่าจะมีผู้ผลิตยานยนต์ดังกล่าวมากขึ้น ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าจะเข้าถึงได้ง่ายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศในขณะนี้ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริค (Plug-in Hybrid EV-PHEV) ซึ่งจากสถิติในขณะนี้ ประเทศไทยมีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และคาดว่าจะมีมากขึ้นในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ พร้อมกันนี้ยังมี รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery EV-BEV) โดยจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวและ เก็บพลังงานในแบตเตอรี่จาก ภายนอก รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริค (Hybrid Electric Vehicle-HEV) รถยนต์ที่มีการทำงานร่วมกัน ระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ ไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้าเซลเชื้อเพลิง (Fuel Cell EV-FCEV) ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงและผลิตไฟฟ้ามาขับเคลื่อน

สำหรับข้อจำกัดที่หลายฝ่ายมีความกังวล คือเรื่องการชาร์จไฟนั้น มองว่าหากปรับพฤติกรรมเล็กน้อย คือเมื่อกลับ ถึงบ้านเสียบไฟชาร์จค้างคืน ก็ได้ระยะทางเพียงพอกับการใช้งาน บางรุ่นชาร์จเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทางมากถึงเกือบ 300 กม. หากใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในเส้นทางประจำไม่ได้ ออกนอกเส้นทางบ่อย ก็จะได้ประโยชน์จากการใช้รถยนต์ ไฟฟ้าอย่างมาก “ในส่วนของประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้า มีคุณสมบัติ ที่ไม่ต่างไปจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ทั้งในเรื่องของสมรรถนะ ความสะดวกสบาย แต่ที่ได้เพิ่มขึ้นคือความประหยัด และ ไม่มีมลพิษ รวมถึงการมีสถานีอัดประจุไฟฟ้ารองรับความ ต้องการได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ที่ทั้งภาครัฐ และเอกชน เร่งลงทุนคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีจำนวนมากกว่า 1,000 แห่ง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่กำลังจะเลือกใช้งานรถยนต์ ไฟฟ้าได้มากขึ้น ทั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการและผู้ใช้รถจะได้โอกาสศึกษานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยหากรีบปรับตัวจะทำให้เกิดความได้เปรียบในการปรับตัวสู่อนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งนี่ตอกย้ำการเป็น E-mobility ได้อย่างสมบูรณ์”



Ref.
http://www.greenlifeplusmag.com/archives/7718

Author image
EVAT promotes the use of EV in Thailand, which will lead to a reduction of road pollution especially in major cities.
Bangkok, Thailand Website