latest

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จัดงานแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต ครั้งเเรกในประเทศ

เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย  พร้อมด้วยคุณสมศักดิ์ ปรางทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการใช้ไฟฟ้าและกิจการเพื่อสังคม-1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  ผศ.น.สพ.ดร.เสรี กุญแจนาค  รองอธิการบดีวิทยาเขตศรีราชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตศรีราชา เเละผศ. ดร. อุเทน สุปัตติ หัวหน้าโครงการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต และอุปนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม วิทยาเขตศรีราชามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เเถลงข่าว การจัดงาน การแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต  (EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunity) ซึ่งได้มีการจัดขึ้นตั้งเเต่วันที่ 1 - 3 เมษายน พ.ศ. 2565 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา นอกจากนี้ยังมีผู้สนับสนุนการจัดงานเเข่งขันดังกล่าวได้เเก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.), กระทรวงอุตสาหกรรม, การไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย, บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย และบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จํากัด

ในการเเข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเเข่งขันรวมทั้งสิ้นกว่า 92 ทีม แบ่งเป็นทีมประเภทสถาบันการศึกษา 81 ทีม และเป็นทีมประเภทบุคคลทั่วไป 11 ทีม โดยรูปเเบบการเเข่งขันเเบ่งออกเป็น 2 รอบ ได้เเก่ รอบเเรก เเข่งขันภาคสนามวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 และรอบถัดมาเป็นการเเข่งขันภาคสนามรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจัดการเเข่งขันในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565  ชิงรางวัลสูงสุดรวมกว่า 100,000 บาท เเละถ้วยรางวัลชนะเลิศจากนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา   ส่วนรองชนะเลิศอันดับสองจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาทเเละรองชนะเลิศอันดับสามจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท ส่วนรางวัลพิเศษรางวัลขวัญใจมหาชน จะได้รับรางวัลถ้วยรางวัลจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย

ในการเเข่งขันครั้งนี้ ทางคณะกรรมการจัดงานได้จัดสนามการเเข่งขันโดยเเบ่งออกเป็น 10 สถานีหลัก ได้เเก่สถานีที่ 1 ทดสอบอัตราเร่งของรถ เป็นสถานีที่ผู้เข้าเเข่งขันจะได้รับสัญญาณจากกรรมการให้ขับรถด้วยอัตราเร่งทันทีในระยะทาง 30 m.   สถานีที่ 2 รักษาระดับความเร็ว เป็นการทดสอบความเร็วตามความสามารถของรถ โดยให้ผู้ขับขี่รักษาความเร็วก่อนการเบรก ด้วยการรักษาความเร็วเฉลี่ย 20 - 25 km/hr ในระยะทางทดสอบ 50 m.สถานีที่ 3 ทดสอบระยะการเบรก ใช้ความเร็วระดับเดียวกับจุดที่ 2 เเต่มีระยะการตัดสินใจที่ให้เบรกประมาณ 5 m.สถานีที่ 4  ทดสอบการประกอบของรถ จุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบการประกอบทางกลของชิ้นส่วนทางไฟฟ้า โดยการขับรถวิ่งผ่านลูกระนาด ระยะทาง 50 m. เเละผู้ขับขี่ต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยที่ 20-25 km/hr สถานีที่ 5 ทดสอบบังคับเลี้ยววิ่งอ้อมกรวย  ซึ่งจะเป็นการทดสอบโดยมีการวางกรวยในเเนวเส้นตรงกลางถนน ด้วยระยะทาง 50 m. เเละผู้ขับขี่ต้องรักษาความเร็ว 15-20 km/hrสถานีที่ 6 ทดสอบการขึ้นทางลาดชัน เพื่อทดสอบกำลังของรถในการวิ่งขึ้นเนิน ซึ่งผู้ขับขี่ต้องหยุดรถในพื้นที่หยุดรถ เเละเมื่อไดัรับสัญญาณ ต้องขับรถขึ้นเนินให้ได้ทันที โดยผู้ขับขี่ต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยที่ 20 - 25 km/hr  สถานีที่ 7 การวิ่งในช่องทางคดโค้งในช่องกรวย เพื่อทดสอบการทรงตัวเเละการบังคับเลี้ยวของการขับรถในช่องกรวยที่มีความกว้างเเต่ละคู่ 1.5 m. ด้วยระยะทาง 50 m. ในความเร็วเฉลี่ย 15-20 km/hrสถานีที่ 8 การวิ่งผ่านเนินชะลอความเร็ว ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วจนรถหยุดนิ่ง เป็นการชะลอความเร็วให้รถลดความเร็วก่อนขับขี่ลงเนินที่สูงชัน  สถานีที่ 9 สถานีตรวจวัดพลังงาน ผู้เข้าเเข่งขันต้องขับรถตลอดระยะทางของการเเข่งขันด้วยความเร็วเฉลี่ยที่ 20 km/hr ตั้งเเต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุด โดยวิธีการใช้เครื่องอ่าน RFID เเละสถานีสุดท้ายสถานีที่ 10 สถานีตรวจวัดการป้องกันน้ำ เป็นการตรวจวัดความปลอดภัยของอุปกรณ์ทางไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เมื่อต้องขับขี่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง

โดยการเเข่งขันได้สิ้นสุดลงวันที่ 3 เมษายน ทีมที่ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 7 รางวัลโดยเเบ่งเป็นกลุ่มที่ 1 ผู้ได้รับรางวัลจากประเภทกลุ่มสถาบันการศึกษา ทั้งหมด 3 รางวัล ได้เเก่ทีมS07 E-TECH-Motorcycle 2021 จากวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) อี.เทค  จังหวัดชลบุรี ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้รับถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาพร้อมเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาทรองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้เเก่ทีม S23 วิทยาลัยเทคนิคตราด ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาทเเละรองชนะเลิศอันดับสองได้เเก่ทีม S81 BB5 จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาทส่วนกลุ่มที่ 2 ผู้ได้รับรางวัลประเภทกลุ่มประชาชนทั่วไป  รางวัลชนะเลิศในกลุ่มนี้คือทีม G02 Itimgarage X Crafting lab ได้รับเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชารองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่ทีม G11 โมโตอีวี ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาทเเละรองชนะเลิศอันดับสองได้เเก่ทีม G08 Pari automotive ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาทนอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษรางวัลขวัญใจมหาชน ได้เเก่ทีม S07 E-TECH-Motorcycle 2021 จากวิทยาลัยอี.เทค  จังหวัดชลบุรี  

ขอแสดงความยินดีกับทุกทีมด้วยนะคะ

Author image
EVAT promotes the use of EV in Thailand, which will lead to a reduction of road pollution especially in major cities.
Bangkok, Thailand Website