โดย ดร.ยศพงษ์ ลออนวล
นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย
ประเทศไทยกำหนดมาตรฐานมลพิษของรถยนต์ใหม่ ตามประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ขอเรียกสั้นๆว่า ยูโร (Euro) ในขณะที่ยุโรปและหลายประเทศ ใช้ระดับมาตรฐานยูโร 6d ในรถยนต์ทุกประเภทสำหรับประเทศไทย ในปัจจุบัน กลุ่มรถใหญ่ เช่น รถบัสและรถบรรทุกใช้มาตรฐานยูโร 3 และรถยนต์ใช้มาตรฐานยูโร 4 ในขณะที่ในยูโรป เลิกใช้ ยูโร 3 และ ยูโร 4 มามากกว่า 15 ปี และ 10 ปีตามลำดับ
หากเราเปลี่ยนจากยูโร 4 เป็นยูโร 5 /6 ค่า PM จะลดลง 5 เท่า ถ้าเปลี่ยนจากยูโร 3 จะลดลง 10 เท่า (ดูตามตาราง)
ข้อเสนอที่สำคัญ “รถใหม่ทั้งหมดต้องขยับเป็น ยูโร 5 และ ยูโร 6 ให้เร็วที่สุด”
เรามีรถใหม่ในประเทศปีละ 8 แสนคัน จะช่วยลดปัญหามลพิษได้เร็วขึ้น ทั้งนี้แน่นอนต้นทุนสูงขึ้น เป็นปัญหาของผู้ผลิต ที่ต้องมาช่วยแก้ปัญหาของประเทศร่วมกัน
“ปัญหาของประเทศ คือ ทำให้ประเทศไทยมีอากาศที่สะอาดกลับคืนมา “
นอกจากนี้
1. น้ำมันยูโร 5 ควรเร่งให้เกิดการผลิตในประเทศเพิ่มมากขึ้น ถ้าจำเป็นควรนำเข้ามาก่อนในวิธีการที่เหมาะสม ข้อมูลปัจจุบันเรามีกลุ่มรถยูโร 5/6 ในประเทศ ที่สามารถใช้ได้เลย เราเสียโอกาสลดมลพิษในกลุ่มนี้อยู่
2. กลุ่มรถเก่า ไม่ว่า รถยนต์ รถกระบะ รถบัส และรถบรรทุก ต้องมีมาตรการ แก้ไขเพิ่มเติม (จะนำเสนอต่อไป)

ช่วงนี้มีหลายมาตรการเร่งด่วนที่เกิดขึ้น
หากพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลัง ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ค่า PM2.5 ลดลง อย่างชัดเจน สิ่งหนึ่งที่น่าจะได้ผลเกิดจาก “การสั่งหยุดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย” ทำให้จราจรเบาบาง และพิสูจน์ได้ว่าการจราจรที่ติดขัดเป็นปัญหาหลักที่สำคัญของปัญหามลพิษที่เกิดขึ้น แต่มาตรการหยุดโรงเรียน คงไม่สามารถทำได้ตลอดไป
สิ่งหนึ่งที่ควรดำเนินการต่อและสามารถทำได้เลย
1. การบริหารจัดการให้ลูกหลานไปโรงเรียนพร้อมกัน เช่น
car pool “บ้านใกล้ ฉันไปด้วย”
school bus “รถโรงเรียน พาสุขสันต์”
walk to school together “เดินไปเรียน ฉันกับเธอ” เป็นต้น
2. Peak Management การบริหารจัดการช่วงเวลาที่มีจราจรหนาแน่น เช่น เราทราบดีว่าโรงเรียนจะเข้าเรียนใกล้เวลากัน
ตอนเช้า ขอให้ทุกโรงเรียน ไม่จำเป็นต้องเข้าโรงเรียนพร้อมกัน โรงเรียนในพื้นที่เดียวกัน ควรมีเวลาเข้า-เรียนแตกต่างกัน และอนุญาตให้เคารพธงชาติ ในเวลาทีแตกต่างกันได้
3. Work at home หน่วยงานควรมีช่วงเวลาทำงานยืดหยุ่น (Flexible working hour) ในการทำงานของบุคลากรที่ไม่จำเป็นต้องเข้ามา สามารถเริ่มงานหรือเลิกงานในช่วงเหมาะสม และให้สามารถทำงานที่บ้าน ในบ้างวันและเวลา โดยมีการตกลงกับหน่วยงานที่ชัดเจน และประเมินจากความสามารถเป็นหลัก
4. School at home เริ่มให้มีการจัดการการเรียนการสอนแบบ Live อาจจะเริ่มจาก โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ให้มีอย่างน้อย 1 วัน ในหนึ่งอาทิตย์ โดยเลือกมาอย่างน้อย 1 วัน และจัดให้มีระบบที่สามารถทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างครู อาจารย์ และนักเรียน ได้ด้วย

