latest

การส่งเสริมและพัฒนาเกี่ยวกับสถานีอัดประจุเพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

ประเทศไทยได้มีการส่งเสริมและพัฒนาเกี่ยวกับสถานีอัดประจุเพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งในด้านการพัฒนาเครื่องอัดประจุ การทำยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ ตลอดจนถึงการวางแผนการพัฒนาด้านระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการกำลังไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทยได้ทำการศึกษาและมีผลงานวิจัยในด้านต่าง ๆ ทั้งงานวิจัยที่สำเร็จออกมาสู่สาธารณะและงานวิจัยที่กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ โครงการการส่งเสริมและพัฒนาที่เกี่ยวกับสถานีอัดประจุของหน่วยงานต่าง ๆ มีดังนี้

- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โครงการการพัฒนาเกี่ยวข้องกับสถานีอัดประจุและยานยนต์ไฟฟ้าของ กฟผ. ได้มีการแบ่งการดำเนินการอยู่ทั้งหมด 3 ด้าน ได้แก่          

• ด้านวิจัยและนวัตกรรม อาทิ การวิจัยพัฒนาชุดประกอบรถไฟฟ้าดัดแปลงและคู่มือการดัดแปลง การพัฒนาการดัดแปลงรถเมล์ใช้แล้วของ ขสมก. เป็นรถไฟฟ้า โครงการวิจัยการใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้า กรณีศึกษารถรับจ้างสาธารณะในพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เป็นต้น
• ด้านส่งเสริมประสิทธิภาพและการใช้งาน อาทิ โครงการนำร่องสาธิตการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า และสถานีอัดประจุไฟฟ้า งานพัฒนามาตรฐานและเกณฑ์ประสิทธิภาพสำหรับ EV & Charging Station (รองรับการติดฉลากเบอร์ 5) เป็นต้น        
• ด้านพัฒนาธุรกิจ อาทิ โครงการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ งานพัฒนา Application และระบบบริหารจัดการสถานีอัดประจุไฟฟ้า เป็นต้น

- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โครงการการพัฒนาเกี่ยวข้องกับสถานีอัดประจุและยานยนต์ไฟฟ้าของ กฟภ. ได้มีการแบ่งการดำเนินการอยู่ทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่          

• การสนับสนุนด้านระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อาทิ การปรับปรุงระบบผลิต ระบบส่ง และระบบจำหน่ายแรงสูง เพื่อให้เพียงพอต่อ EV Charging Station ที่จะมีการติดตั้งบนถนนสายหลักและถนนสายรอง  
• แผนงานติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า PEA VOLTA มีการทำแผนงานติดตั้งสถานีอัดประจุตามเป้าหมายของโครงการไว้ทั้งหมด 263 สถานี ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัด ภายในปี 2564        
• การพัฒนา PEA VOLTA Platform มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้า สำหรับใช้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าของ กฟภ. และจะขยายผลให้สามารถ Roaming กับ Platform ของผู้ประกอบการรายอื่นได้ในอนาคต
• การสนับสนุนอัตรา EV Low Priority กฟภ. ได้มีการสนับสนุนอัตราค่าไฟฟ้าแบบคงที่ตลอดวันเท่ากับ 2.6369 บาทต่อหน่วย

- การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) โครงการการพัฒนาเกี่ยวข้องกับสถานีอัดประจุและยานยนต์ไฟฟ้าของ กฟน. ที่มีการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับสถานีอัดประจุ มีดังนี้        
• Smart Metro Grid เป็นโครงการที่ กฟน. ได้มีการตั้งเป้าหมายในปี 2564 โดยจะติดตั้ง Smart Meter ทั้งหมด 33,265 เครื่อง พร้อมทั้งการทำระบบ Energy Storage เพิ่มใน Substation ปทุมวัน        
• MEA Smart Charging System เป็นระบบบริหารจัดการพลังงานสำหรับการอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูลและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าด้วยกัน        
• MEA EV Platform เป็น Mobile Application สำหรับผู้ใช้บริการทั่วไปที่สามารถใช้ค้นหา ดูรายละเอียด จอง และนำทางไปยังสถานีอัดประจุได้ รวมถึงแสดงประวัติการอัดประจุที่ผ่านมา และมี Web Application สำหรับเจ้าหน้าที่ กฟน. และผู้ประกอบการ        
• การติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า กฟน. มีแผนการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าของ กฟน.  จำนวน 88 สถานี        
• อัตราค่าไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุแบบ Low Priority กฟน. ได้มีการสนับสนุนการคิดอัตราค่าไฟฟ้าแบบคงที่ตลอดเวลา โดยค่าไฟฟ้าจะคิดในอัตราเท่ากับกิจการขนาดเล็ก อัตราตามช่วงเวลา (TOU) คือ 2.6369 บาทต่อหน่วย

- บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน มีการพัฒนา DC City Charger 50/100 kW เป็นเครื่องอัดประจุแบบเร็ว 1,000 V และการกระจายโหลดแบบไดนามิก ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพถึง 94% และสามารถรองรับหัวจ่ายได้หลากหลาย

- บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด มีการสร้างเครื่องอัดประจุ ABB Terra 53 โดยได้การติดตั้งเครื่องอัดประจุตามเครือ Central ในชื่อ Central project ติดตั้งภายใต้ชื่อ PEA VOLTA ซึ่งเป็นรุ่น Terra 54 และติดตั้งในสถานีของ กฟผ. ซึ่งเป็นรุ่น Terra 124 จำนวน 5 Unit

- บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด มีการพัฒนาสถานีอัดประจุในรูปแบบต่าง ๆ เช่น AC Charger , DC Charger รวมถึงการพัฒนาสถานีอัดประจุขนาด 4 MW สำหรับเรือไฟฟ้า Mine Smart Ferry และสถานีอัดประจุขนาด 1.5 MW สำหรับรถโดยสารไฟฟ้า

- บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) มีโครงการติดตั้งสถานีอัดประจุตามสถานีเติมน้ำมันเชื้อเพลิงของ ปตท. ซึ่งปัจจุบันได้มีการติดตั้งสถานีอัดประจุทั้งหมด 89 สถานี และมีแผนที่จะขยายการติดตั้งสถานีอัดประจุให้ครอบคลุมเส้นทางหลักตามทางหลวง ทุก ๆ 100 กิโลเมตร ภายในปี 2564 และจะเพิ่มความถี่ของสถานีอัดประจุให้ได้ทุก ๆ 50 กิโลเมตร ภายในปี 2565-2566

- บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด มีการให้บริการเช่ายานยนต์ไฟฟ้า (EV Car Sharing) เรือท่องเที่ยวไฟฟ้า (e-Ferry) และการให้บริการรถโดยสารแบบไรด์แชร์ริ่ง (Ride Sharing)

- บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จํากัด มีการทำโครงการ ChargeNow ซึ่งเป็นเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าประเภท Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) และ Battery Electric Vehicle (BEV) และมีเป้าหมายที่จะติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ครบ 100 สถานีทั่วประเทศ

- บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีการติดตั้งสถานีอัดประจุแบบเร็ว ภายใต้ชื่อ MG SUPER CHARGE โดยจะสามารถใช้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าได้ทุก ๆ 150 กิโลเมตร ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมายในการติดตั้งสถานีอัดประจุ จำนวน 100 แห่ง ภายในเดือนธันวาคม 2563 และมีแผนที่จะขยายสถานี MG SUPER CHARGE เพิ่มอีก 500 แห่ง ภายในปี 2564

Author image
EVAT promotes the use of EV in Thailand, which will lead to a reduction of road pollution especially in major cities.
Bangkok, Thailand Website