
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562 สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยนำโดย นายกสมาคม ดร.ยศพงษ์ ลออนวล จัดงานเสวนาเเลกเปลี่ยนประสบการณ์ การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า กับ 5 ตัวเเทนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจาก 5 ค่ายรถยนต์ชั้นนำ พร้อมกับตัวเเทนจาก ทางสมาคมเข้าร่วมเสวนา โดยจุดประสงค์ ของการเสวนา ในครั้งนี้ เพื่อต่อยอดเเนวทางการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างสร้างสรรค์ในประเทศ ไทย

ในงานเริ่มด้วย นายกสมาคม ดร.ยศพงษ์ ลออนวล กล่าวเปิดงาน พร้อมเผยการ เปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า สาธารณะที่สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยได้ดำเนินการ ติดตั้งเพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการ ผู้ใช้งาน ยานยนต์ ไฟฟ้าทั้ง 5 ในฐานะ ผู้บริโภคเห็นพ้องต้องกันว่า รถยนต์ไฟฟ้าจากทุกค่ายล้วนมีสมรรถนะที่ดี เกินคาด การใช้งานมีปัญหาเล็กน้อยเรื่องความคลาดเคลื่อนของค่าเเบตเตอรี่กับระยะทาง เเต่โดยรวม ค่อนข้างคุ้มค่าในเรื่องของค่าใช้จ่าย เเละมีความประทับใจ ชาร์จเต็ม จากบ้านก็สามารถเดินทางไกลได้

สำหรับจุดที่เริ่มเป็นปัญหาสำหรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า คุณศิรวุฒิ ปัญญหาทวีกุล เจ้าของรถผู้ใช้งาน จาก Nissan กล่าวคือ การมีสถานีประจุไฟฟ้าสาธาณะ บางจุด ไม่สามารถใช้งานได้ เเละที่จอดสำหรับ ยานยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างมีจำกัด เพราะ ต้องใช้เวลาในการชาร์จต่อหนึ่งครั้งนานพอสมควรส่วน คุณพอลล์ กาญจนภาสน์ เจ้าของรถผู้ใช้งานจาก BMW จะมีเรื่องประเด็นการจดทะเบียนรถ ที่อาจมี การสับสนช่วงจดทะเบียนเล็กน้อย เเต่ก็ได้รับการช่วยเหลือ จากค่ายรถยนต์ ในการจดทะเบียนเป็น อย่างดี คุณบุรฤทธิ์ ศิริวิชัย เจ้าของ รถผู้ใช้งาน FOMM กล่าวว่า ปัญหาไม่ได้อยู่เพียงเเค่จำนวน สถานีชาร์จ เเต่อยู่ที่ไฟฟ้าอาจไม่ เพียงพอต่อจำนวนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตอาจไม่สามารถผลิต ไฟฟ้าได้ทัน นอกจากนี้คอนโดมิเนียมโดยส่วนใหญ่ยังไม่สามารถรองรับการ ชาร์จไฟฟ้าสำหรับช่องจอดรถยนต์แต่ละช่องของเจ้าของห้องคอนโดมิเนียมได้ อีกทั้งปัญหาที่สองคือจำนวนรถยนต์ก็จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการไฟฟ้าต้องพัฒนา คุณวรรณดิษย์ เเว่นอินทร์ เจ้าของรถผู้ใช้งาน MG พบว่าการคำนวณระยะทาง ที่รถจะวิ่งได้ ระบบมีความผิดพลาดบ้าง เเต่ก็สามารถเเก้ปัญหาได้ คุณสุวัฒน์ พฤกษ์เสถียร เจ้าของรถผู้ใช้งาน Hyundai เล่าว่า ในสถานการณ์ประเทศไทย ณ ขณะนี้ รถไฟฟ้ายังไม่สามารถเป็นรถคันเเรกเเละคันเดียวได้ในครอบครัวได้ ภาครัฐควรสนับสนุนการพัฒนาจุดนี้ให้เหมือนต่างประเทศที่คนใช้รถไฟฟ้าเกินกว่าครึ่งของรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
ด้านคุณอลิสา ทิพย์สุวรรณ ตัวเเทน EVAT Charging Consortium กล่าวถึง ภาพรวมเเอพพลิเคชั่นรวบรวมสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า ผู้ขับขี่สามารถเข้า มาดู ได้ว่ามีที่ใดบ้าง ซึ่งปัจจุบันเเท่นชาร์จมีทั้งหมด 2 แบบคือเเบบ AC ที่ใช้ไฟฟ้า น้อยเหมาะสำหรับรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด ซึ่งเเบบนี้จะสามารถพบเห็นได้ ตามห้างสรรพสินค้า เเละเเบบ DC สำหรับผู้ขับขี่ยานยนต์ EV ร้อยเปอร์เซนต์ ที่ปัจจุบันหน่วยงานรัฐ เเละสถานที่ราชการสามารถรองรับการติดตั้งได้เนื่องจาก มีไฟฟ้าที่เพียงพอ เเละในเรื่องการติดตั้งปัญหาที่พบ คือค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง สถานีอัดประจุไฟฟ้า จะต้องใช้การเดินสายไฟบางสถานที่ต้องเดินสายไฟ ระยะทางไกลมากจากตัวเบรกเกอร์ ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูง
สำหรับสิ่งที่อยากฝากส่งท้าย คุณศิรวุฒิ กล่าวว่า ค่ายรถยนต์จะต้องมีการเพิ่ม จำนวนจุดชาร์จเเบบ DC อย่างต่อเนื่องเเบบในปัจจุบันซึ่งทำได้ดี เเละ จุดชาร์จ ไม่ควรปิดในวันหยุดพร้อมกับศูนย์จำหน่ายรถยนต์ โดยเฉพาะในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ การชาร์จไม่ควรให้ผู้ใช้รอคิวในการรอชาร์จนาน ส่วนคุณพอลล์ หวังไว้ว่าในอนาคตจะได้เห็นคนใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ในขณะที่ คุณบุรฤทธิ์ เล่าว่า จะต้องเเก้ปัญหาเรื่องจุดชาร์จให้มีเเพร่หลายมากขึ้น เเละปัญหาไฟฟ้า ที่อาจมีไม่เพียงพอกับการใช้งาน คุณวรรณดิษย์ เห็นด้วยกับคุณ บุรฤทธิ์ ที่ประเทศไทยต้องมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าเเบบ DC ที่เพียงพอในสถานที่ต่างๆ คุณสุวัฒน์เเนะนำว่า พลังงานไฟฟ้าควรได้จากการผลิตจาก เเสงอาทิตย์เเทนที่ จะเป็นพลังงานไฟฟ้าจากน้ำมัน เเละกลุ่มทุนด้านพลังงานรายใหญ่ควรนึกถึง ผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลักในการพัฒนาโครงสร้างการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ คุณอลิสา เพิ่มเติมว่าในปีหน้า จะมีการเพิ่มสถานีอัดประจุไฟฟ้าเเบบ DC กว่า 120 เเห่งทั่วประเทศ พร้อมเเนะนำว่าผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าไม่ควรจอด ยานยนต์ไฟฟ้า เเช่ไว้ เมื่อเเบตเตอรี่เต็มเเล้วก็ควรนำรถออกเพื่อให้ผู้ใช้ รายอื่นได้ชาร์จ
เกี่ยวกับ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (Electric Vehicle Association of Thailand)
สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยเป็นสมาคมที่ไม่เเสวงหาผลกำไร โดยเเนวทางของสมาคมมุ่ง ส่งเสริมเเละสนับสนุนการเเลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการด้าน เทคโนโลยีเเละนวัตกรรม ยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ยังรวมไปถึงการให้คำปรึกษาข้อบังคับมาตรฐานเเละการดำเนินงาน ในการพัฒนาเทคโนโลยี ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ในปัจจุบันสมาคมมี ดร.ยศพงษ์ ลออนวล ทำหน้าที่นายกสมาคมเเละมีสมาชิกที่มาจากภาคเอกชน สถาบันศึกษา รัฐวิสาหกิจ เเละบุคคลทั่วไปรวมทั้งสิ้น209 ราย โดยทางสมาคมมีการกำหนดการจัดการประชุมในทุกๆเดือน เเละมีการเเบ่งคณะทำงานในด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนเเละส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงเเละยั่งยืน ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ที่ http://www.evat.or.th